สำหรับเพื่อนที่มีความคิดที่อยากจะลงทุนอสังหาฯ ด้วยการซื้อที่ดิน – ขายที่ดิน ให้ได้กำไร ที่ดินแบบไหนน่าซื่อลงทุน
โดยเฉพาะกับการที่ซื้อที่ดินมาเพื่อเสนอขายที่ดินให้กับนายทุนหรือเหล่าดีเวลลอปเปอร์ ที่ต้องการนำที่ดินไปพัฒนาสร้างอสังหาฯ ด้านอื่นๆ
เช่น บ้าน คอนโด อาคารพาณิชย์ ห้าง หรือบริษัท โดยหลักที่คุณควรคำนึงและใช้ในการพิจารณาเลือกซื้อที่ดินเพื่อนำมาขาย
วันนี้เราจะพาไปรู้ว่า ที่ดินแบบไหน ขายได้ไว ถูกใจนักลงทุน
1.อยู่ในทำเลผังเมืองที่มีศักยภาพ
เลือกที่ดินให้ตรงกับลักษณะของผังเมืองที่กำหนดให้เป็นที่ดินที่สามารถพัฒนาที่อยู่อาศัย โรงงาน หรือใช้เพื่อพาณิชยกรรมได้
และควรที่จะหลีกเลี่ยงการซื้อที่ดินในเขตผังเมืองที่เป็นโซนสีเขียวทแยงขาว หรือสีเขียว ซึ่งเป็นที่ดินประเภทอนุรักษ์ชนบทและเกษตรกรรม
และที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม ซึ่งไม่สามารถทำการพัฒนาโครงการจัดสรรต่างๆ ได้นั่นเอง
- สภาพแวดล้อมตอบโจทย์
ต้องเป็นที่ดินที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดินที่ดี และตอบโจทย์กับวัตถุประสงค์ของผู้ซื้อ มีคนพลุกพล่านหรืออยู่ในส่วนของชุมชน
หรือถ้าต้องการขายให้คนที่นำมาทำบ้าน ที่อยู่อาศัย ก็ต้องเน้นความสงบเป็นส่วนตัว แต่ก็ไม่เปลี่ยว และมีสิ่งอำนวยความสะดวกรายล้อม - เดินทางเข้า-ออกสะดวก
สิ่งสำคัญที่สุดเลยก็คือ ต้องเป็นแปลงที่ดินที่สามารถเดินทางเข้า-ออกได้สะดวก ไม่เป็นที่ดินเปลี่ยว เป็นที่ดินในซอยตัน
รถยนต์หรือรถสาธารณะสามารถเข้าถึงได้ หรือถ้าเลือกที่ดินที่ใกล้กับรถไฟฟ้าได้ยิ่งดี เพราะจะเป็นที่ดินที่นักทุนต้องการมากเป็นพิเศษ
จะยิ่งทำให้ขายได้ราคาดีมากขึ้น - ที่ดินที่มีรูปทรงยอดนิยม
รูปทรงที่ดินก็มีผลต่อการตัดสินใจซื้อของนักลงทุน สามารถสร้างประโยชน์จากการใช้ที่ดินได้อย่างเต็มที่ หรือฮวงจุ้ยที่ดินด้วยเช่นกัน
ซึ่งที่ดินที่เป็นที่ต้องการ มักจะมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหรือจัตุรัส เพราะสามารถใช้ประโยชน์ได้เต็มที่แบบไม่มีเหลือเนื้อที่ดินที่เหลือไว้โดยเปล่าประโยชน์
ต่อให้ที่ดินคุณจะสวยขนาดไหนทำเลดีขนาดไหน แต่ไม่ตอบโจทย์ ขนาดที่ดิน ของนักลงทุน ก็ยากเหมือนกันที่จะขายไม่ออก เพราะโครงการอสังหาในบ้านเรามี
หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะ คอนโดไฮไรส์ คอนโดโลว์ไรส์ บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ทาวน์โฮม หมู่บ้านจัดสรร หรือโครงการมิกซ์ยูส
โครงการแต่ละประเภทนั้น ควรมีขนาดของที่ดินคร่าวๆประมาณขนาดไหนบ้าง
- โครงการคอนโดมิเนียม
ควรมีพื้นที่ตั้งแต่ 1.5 – 5 ไร่ขึ้นไป เพราะตัวโครงการคอนโดที่สร้างออกมาจะได้มีจำนวนห้องที่เหมาะสม โครงการคอนโดมิเนียมโลวไรส์ (สูงไม่เกิน 23 เมตรหรือประมาณ 8 ชั้น)
ที่ดินควรจะติดกับทางสาธารณะ เขตทางกว้าง 6-8 เมตร ส่วนโครงการคอนโดมิเนียมไฮไรส์ (ตึกสูง) ที่ดินควรจะมีความกว้างหน้าที่ดิน 12 เมตรขึ้นไป
และติดกับทางสาธารณะเช่นกัน แต่เขตทางไม่ต่ำกว่า 10 เมตร และทำเลที่ดินที่ถือเป็นทำเลของของโครงการ คอนโดมิเนียม
นี้ก็คือบริเวณที่ใกล้รถไฟฟ้า BTS หรือรถไฟใต้ดิน MRT เพราะจะได้เดินทางสะดวก ถ้าไม่เกิน 500 เมตรจะยิ่งเรียกราคาได้มากโครงการมิกซ์ยูส
ควรมีพื้นที่ตั้งแต่ 5 – 15 ไร่ ควรจะมีความกว้างหน้าที่ดินอย่างน้อย 30 – 100 เมตร โครงการที่ขนาดใหญ่นั้นก็ยิ่งต้องมีการสัญจรภายในโครงการเยอะขึ้นไปด้วย
นี่ยังไม่รวมถึงกฎหมายอาคารที่จะเป็นการควบคุมขนาดของอาคารอีก ที่ดินที่จะมาพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูส จะต้องตั้งอยู่ใกล้กับถนนสาธารณะ
ควรอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS หรือรถไฟใต้ดิน MRT ต้องตั้งอยู่ใกล้กับถนนสาธารณะหรือติดเลยยิ่งดี
- โครงการหมู่บ้านจัดสรร
ควรมีพื้นที่ตั้งแต่ 10 – 30 ไร่ จุดเด่นของที่ดินโครงการบ้านจัดสรรคือไม่จำเป็นต้องติดกับการคมนาคมสาธารณะ
หรือ ยิ่งติดยิ่งได้ราคาดี ควรจะอยู่ในพื้นที่ชุมชน หรือใกล้แหล่งชุมชนในระยะที่สามารถเดินทางได้สะดวก
จะเห็นว่า การเลือกซื้อ-ขายที่ดินนั้นมีรายละเอียดปลีกย่อยให้พิจารณามากมาย ที่ดินแบบไหนที่จะเป็นที่ต้องการสำหรับนักลงทุน ดีเวลลอปเปอร์
และผู้ซื้อทั่วไปได้บ้าง เพื่อให้คุณสามารถซื้อ-ขายที่ดินได้ในราคาที่ดีและเป็นไปตามที่ต้องการได้นั่นเอง หากสนใจ ซื้อ หรือ ขายที่ดิน ติดต่อ Landthaimart ได้เลย
เรามีทีมงานมืออาชีพค่อยให้คำปรึกษาอยู่ค่ะ
————————————————————————————————-
หากๆ เพื่อยังมีข้อสงสัย ทีม Landthaimart ยินดีให้คำปรึกษา
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
inbox : m.me/105963835437530
Line@ : https://lin.ee/Nxmbdbc
อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ : https://landthaimart.com/articles/
#LandThaiMarket #รับซื้อที่ดินอย่างมืออาชีพ #LandThaiMarket
#ที่ดิน #ที่ดินทำเลสวย #จำนองที่ดิน #ที่ดินแลกเงิน #รับซื้อที่ดิน
#อสังหาทรัพย์ #ลงทุนอสังหา #ตลาดที่ดิน #บ้านที่ดิน #ซื้อขายที่ดิน
#ที่ดินราคาถูก #ที่ดินกรุงเทพ #นายหน้าที่ดิน #ที่ดินใกล้กรุงเทพ #ต้องการที่ดิน