สัญญาเช่าที่ดิน ระยะสั้น ระยะยาว ต่างกันอย่างไร

เพื่อนบางคนอาจรู้จักสัญญาซื้อขายที่ดิน  แต่สิ่งที่ควรรู้ไม่แพ้กันนั้นก็คือ “สัญญาเช่าที่ดิน” เพราะสัญญาประเภทนี้
มีความแตกต่างกับสัญญาการซื้อขายที่ดินอยู่พอสมควร วันนี้เราจึงจะพาเพื่อนๆ มาทำความเข้าใจเรื่อง
สัญญาเช่าที่ดินระยะสั้น ระยะยาว ต่างกันอย่างไร  เผื่อว่าในอนาคตเพื่อนๆ อาจจะต้องการเช่าที่ดินเพื่อทำธุรกิจต่อไป จะได้ไม่โดนหลอก

สัญญาเช่าที่ดิน คือ

เป็นสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์ในอีกรูปแบบนึง  โดยสัญญาจะมีทั้งสองฝ่าย คือ ผู้เช่าและผู้ให้เช่า ผู้เช่าต้องจ่ายค่าเช่า
ส่วนผู้ให้เช่าต้องให้สิทธิ์ในการครอบครองที่ระบุในสัญญาเช่า โดยกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินที่เช่าจะไม่โอนเป็นของผู้เช่า
สัญญาเช่าจึงเป็นเพียงการตกลงเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อใช้ประโยชน์ตามเวลาที่ตกลงเท่านั้น ซึ่งอสังหาริมทรัพย์ที่เช่านั้นจะไม่ตกเป็นของผู้เช่าเด็ดขาด

สัญญาเช่าที่ดินมี 2 ประเภท

  1. สัญญาเช่าที่ดินระยะยาว

ต้องเช่า 3 ปี ขึ้นไป โดยผู้ให้เช่าและผู้เช่าต้องจดทะเบียนสัญญาเช่าที่สำนักงานที่ดินของแต่ล่ะพื้นที่
จะมีค่าธรรมเนียมให้กับเจ้าหน้าที่ของกรมที่ดิน ถ้าหากไม่ทำการจดทะเบียน สัญญาเช่าที่ดินจะมีอายุบังคับตามกฎหมายเพียง 3 ปีเท่านั้น
โดยแบ่งเป็นประเภทย่อยๆ อีก ได้แก่

  • สัญญาเช่าธรรมดา

จะเป็นเหมือนสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์ทั่วไป ที่ผู้เช่าเสียแค่ค่าเช่าต่อผู้ให้เช่า และผู้เช่าไม่สามารถโอนสิทธิในการเช่าได้
หากมีการฟ้องร้องกันจะต้องฟ้องร้องในระยะเวลาของการเช่าที่กำหนดไว้

  • สัญญาเช่าต่างตอบแทน

จะเป็นสัญญาที่ผู้เช่าจะต้องเสียค่าตอบแทนอื่นๆ ตามที่ตกลงยินยอมให้กับผู้ให้เช่า เป็นการเสียค่าตอบแทนเพิ่มเติมนอกจากค่าเช่า
*การทำสัญญาเช่าที่ดิน จะต้องทำสัญญาในรูปแบบที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น การทำสัญญาจึงจะมีผลตามกฎหมายและสามารถใช้ฟ้องร้องบังคับคดีได้

 

  1. สัญญาเช่าที่ดินระยะสั้น

เป็นสัญญาเช่าที่ดินที่ระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี สามารถทำได้เอง ผู้เช่าและผู้ให้เช่าไม่จำเป็นต้องไปสำนักงานที่ดิน
โดยหนังสือสัญญาต้องมีรายละเอียดต่างๆ ตามตกลงกันอย่างครบถ้วน พร้อมลายเซ็นชื่อของคู่สัญญา พยาน
อย่างครบถ้วนจึงจะถือว่าเป็นสัญญาเช่าที่สมบูรณ์ตามกฎหมาย

สิ่งสำคัญของสัญญาเช่าที่ดิน

  1. รายละเอียดของคู่สัญญา ผู้เช่าและผู้ให้เช่า

ในสัญญาที่ดินต้องระบุให้ชัดเจนว่าใครคือผู้เช่าและผู้ให้เช่า พร้อมชื่อและข้อมูลต่างๆ อย่างละเอียด
ที่อยู่ตามบัตรประชาชน ที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ เบอร์โทรศัพท์

  1. รายละเอียดของที่ดินที่เช่า/ให้เช่า

ในสัญญาที่ดินต้องระบุข้อมูล ทำเลที่ตั้ง เลขที่โฉนดที่ดิน  ขนาดของที่ดินให้เช่า ผู้เช่าสามารถทำประโยชน์อะไรได้บ้างบนผืนที่ดินนั้น
เพื่อความชัดเจนและป้องกันข้อพิพาท หรือการฟ้องร้องในอนาคต

  1. ระยะเวลาให้เช่า

ในสัญญาต้องระบุระยะเวลาที่ให้เช่าที่ดิน ไม่ว่าจะทำสัญญาเช่าที่ดินระยะสั้นหรือระยะยาว ถ้าเป็นสัญญาเช่าระยะยาวที่มากกว่า 3 ปีขึ้นไป
คู่สัญญาต้องไปทำสัญญาต่อหน้าเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดิน

  1. อัตราค่าเช่าและวิธีการชำระเงิน

ในสัญญาต้องระบุค่าเช่า พร้อมแจกแจงรายละเอียดวิธีชำระเงิน กำหนดเวลาการชำระเงิน ถ้าขอขึ้นค่าเช่าจะขึ้นเป็นเท่าไหร่ ในระยะเวลาไหน

  1. การรับผิดชอบของผู้เช่า

ในสัญญาต้องระบุความเสียเมื่อมีผู้เช่ามาใช้ประโยชน์ ในอนาคตอาจเกิดความเสียหายเมื่อมีผู้เช่ามาใช้ประโยชน์แล้ว
ในสัญญาควรต้องระบุต้องรับผิดชอบอย่างไร ในกรณีที่เกิดความเสียหายของที่ดินหรือทรัพย์สิน

เป็นยังไงกันบ้างเพื่อนๆ กับ สัญญาเช่าที่ดินระยะสั้น ระยะยาว ต่างกันอย่างไร เพื่อนคงพอเข้าใจกันแล้ว ก่อนที่เพื่อนๆ จะทำสัญญาที่ดินทุกครั้ง
อย่าลืมตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารอย่างละเอียดทุกครั้ง ถ้าเกิดปัญหาขึ้นมา จะทำให้คุณต้องมานั่งปวดหัวภายหลังได้
และถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาล อาจทำให้เสียเวลาและเงินทองได้ เพราะอย่างนั้นแล้วในสัญญาควรระบุให้ชัดเจนและรัดกุมกับทั้งผู้เช่าและผู้ให้เช่า

สัญญาเช่าที่ดิน ระยะสั้น ระยะยาว ต่างกันอย่างไร

หากๆ เพื่อยังมีข้อสงสัย ทีม Landthaimart ยินดีให้คำปรึกษา

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

inbox : m.me/105963835437530

Line@ : https://lin.ee/Nxmbdbc

อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ : https://landthaimart.com/articles/

#LandThaiMarket #รับซื้อที่ดินอย่างมืออาชีพ  #LandThaiMarket

#ที่ดิน #ที่ดินทำเลสวย #จำนองที่ดิน #ที่ดินแลกเงิน #รับซื้อที่ดิน

#อสังหาทรัพย์ #ลงทุนอสังหา #ตลาดที่ดิน #บ้านที่ดิน #ซื้อขายที่ดิน

#ที่ดินราคาถูก #ที่ดินกรุงเทพ #นายหน้าที่ดิน #ที่ดินใกล้กรุงเทพ  #ต้องการที่ดิน